อย่ารอให้สายตาเสื่อมก่อนวัย! เริ่มดูแลดวงตาของคุณตั้งแต่วันนี้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และเสริมด้วยอาหารเสริมที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดีในระยะยาว

ดูแลดวงตาอย่างไรให้ห่างไกลโรคจอประสาทตาเสื่อม

Please Share If you Love this content

ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยให้เรามองเห็นโลกได้อย่างชัดเจน แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือจากการใช้งานที่หนัก ดวงตาก็มีโอกาสเสื่อมสภาพได้ โดยเฉพาะ “โรคจอประสาทตาเสื่อม” ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถกระทบคุณภาพชีวิตได้อย่างรุนแรง ในบทความนี้ เราจะพามาทำความเข้าใจวิธีดูแลดวงตาให้ห่างไกลจากโรคจอประสาทตาเสื่อม พร้อมคำแนะนำที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง

โรคจอประสาทตาเสื่อมคืออะไร

โรคจอประสาทตาเสื่อม (Age-related Macular Degeneration หรือ AMD) เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ที่บริเวณจุดรับภาพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของจอประสาทตา โรคนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก

ชนิดแห้ง (Dry AMD) เกิดจากการสะสมของเนื้อเยื่อที่ผิดปกติในจุดรับภาพ ทำให้การมองเห็นค่อยๆ ลดลง

ชนิดเปียก (Wet AMD) เกิดจากเส้นเลือดใหม่ที่ผิดปกติและรั่วซึมบริเวณจุดรับภาพ ส่งผลให้การมองเห็นพร่ามัวและอาจสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

ปัจจัยเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม

  1. อายุ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีมีความเสี่ยงสูง
  2. พันธุกรรม หากครอบครัวมีประวัติโรคนี้ คุณอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  3. การสูบบุหรี่ เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
  4. การรับแสงแดด การสัมผัสแสงยูวีโดยไม่มีการป้องกัน
  5. การขาดสารอาหาร โดยเฉพาะลูทีน ซีแซนทีน และวิตามินซี

ดูแลดวงตาอย่างไรให้ห่างไกลโรคจอประสาทตาเสื่อม

1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาเป็นสิ่งสำคัญ  

ลูทีนและซีแซนทีน พบในผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม และบรอกโคลี

โอเมก้า 3 พบในปลาแซลมอน ทูน่า และถั่ววอลนัท

วิตามินซีและอี พบในผลไม้รสเปรี้ยวและถั่วต่างๆ

สังกะสี พบในหอยนางรม เนื้อสัตว์ และเมล็ดธัญพืช

2. ปกป้องดวงตาจากแสงแดด

การสวมแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติกรองรังสียูวีสามารถลดความเสี่ยงจากการเสื่อมสภาพของจอประสาทตาได้ ควรเลือกแว่นที่สามารถกรองรังสียูวีได้ 99-100% เพื่อปกป้องดวงตาในระยะยาว

3. เลิกสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อม หากคุณยังสูบบุหรี่อยู่ การเลิกสูบบุหรี่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงนี้

4. ลดเวลาจ้องจอและพักสายตา

การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานทำให้ดวงตาเหนื่อยล้า ควรพักผ่อนให้เหมาะสม และรู้จักแบ่งเวลาให้เป็นเพื่อไม่ให้กระทบกับสายตาหรือร่างกาย

5. ตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำ

การตรวจสุขภาพดวงตาปีละครั้งสามารถช่วยให้แพทย์ตรวจพบความผิดปกติในระยะแรกเริ่ม ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาได้ทันเวลา

6. เสริมด้วยอาหารเสริมบำรุงดวงตา

อาหารเสริมที่มีลูทีน ซีแซนทีน และสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ เช่นเดียวกับการช่วยลดอาการตาล้าและเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น

เลือกอาหารเสริมอย่างไรให้เหมาะสม

  1. ตรวจสอบส่วนผสม เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีลูทีนและซีแซนทีนเป็นส่วนประกอบหลัก
  2. มองหาสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
  3. เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบมาตรฐานการผลิตและรีวิวจากผู้ใช้

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลดวงตา

เพิ่มการออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด รวมถึงไปยังดวงตา ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในดวงตาทำงานได้ดีขึ้น

พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับที่มีคุณภาพช่วยให้ดวงตาได้รับการฟื้นฟูจากการใช้งานหนักในแต่ละวัน ลดอาการตาแห้งและตาล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลดการใช้สายตาในที่มืด การอ่านหนังสือหรือใช้สมาร์ทโฟนในที่มืดอาจทำให้ดวงตาทำงานหนักเกินไป ควรใช้งานในสภาพแสงที่เหมาะสมเสมอ

โรคจอประสาทตาเสื่อมเป็นภาวะที่ป้องกันได้ หากเราเริ่มดูแลดวงตาตั้งแต่วันนี้ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ใช้ชีวิตอย่างสมดุล และเลือกใช้อาหารเสริมที่เหมาะสม การป้องกันและดูแลดวงตาเป็นเรื่องง่ายและควรเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ดวงตาของคุณคงความชัดเจนและสุขภาพดีในระยะยาว

บำรุงสายตาให้ชัดใสทุกวันด้วย Dextra wiirook plusไม่ว่าจะจ้องจอหนักแค่ไหน ก็สบายตาได้ตลอดวัน เซตขายดี 3 ฟรี 1 ในราคา 1,090 บาท วิตามินเต็มสูตรที่คัดมาเพื่อสุขภาพดวงตาโดยเฉพาะให้ดวงตาพร้อมลุยทุกสถานการณ์ สายตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพื่อดวงตาที่สดใส

สั่งซื้อได้เลยวันนี้ที่ลิ้งค์ด้านล้าง

>> https://www.facebook.com/wiirooka94/?locale=th_TH

>> https://arapapashop.com/product/dextra-wiirook-plus/


Please Share If you Love this content
Shopping Cart